มีรถที่จ่ายค่างวดสินเชื่อรถยนต์อยู่จะติดต่อรีไฟแนนซ์รถได้ไหม

ตอนนี้ชำระค่างวดสินเชื่อรถยนต์อยู่หลายคนมีความต้องการจะทำธุรกรรมรีไฟแนนซ์รถเพื่อให้ได้ได้เงินสดมาใช้ เรียกให้เข้าใจง่ายๆได้ว่าต้องการจะใช้เงินสดก็เลยนำรถฟอร์ดที่ผ่อนสินเชื่อรถยนต์อยู่กับธนาคารมาเข้าไฟแนนซ์ใหม่หรือย้ายไฟแนนซ์รถไปที่แห่งใหม่ให้เกิดส่วนต่างเงินสด จึงเป็นคำถามว่ารถของเราทำได้ไหม ต้องขอบอกก่อนเลยนะครับทางไฟแนนซ์รถถ้าคุณติดต่อทำเรื่องรีไฟแนนซ์รถที่กำลังจ่ายค่างวดสินเชื่อรถยนต์อยู่ เจ้าหน้าที่สถาบันการเงินเค้าจะแจ้งให้ทราบเลยว่าไม่มีนโยบายรีไฟแนนซ์รถที่ยังผ่อนไม่หมด เพราะว่าทุกลิสซิ่งรถจะรับรถยนต์พิจารณาสินเชื่อรถยนต์สำหรับรถยนต์ปลอดภาระผ่อนเท่านั้นโดยจะต้องมีเล่มทะเบียนรถยนต์อยู่กับเจ้าของเองเพื่อจะได้นำเล่มทะเบียนรถยนต์มาใช้ในการโอนเข้าไฟแนนซ์รถ

กรณีของคนที่กำลังผ่อนค่างวดสินเชื่อรถยนต์จะขอรีไฟแนนซ์รถได้หรือเปล่าจะต้องดูความเป็นไปได้อยู่สองสิ่ง อย่างแรกคือยอดหนี้ที่จะต้องเคลียร์กับทางลิสซิ่งรถที่กำลังชำระค่างวดสินเชื่อรถยนต์นั่นเองโดยที่เรียกกันว่ายอดปิดบัญชีรถยนต์ว่าอยู่ในจำนวนเท่าไร ณ ปัจจุบัน สิ่งที่สองที่ควรรู้ก็คือวงเงินสินเชื่อรถยนต์ของคุณ ณ ปัจจุบันว่าสามารถติดต่อสินเชื่อรถยนต์ได้ในวงเงินเท่าไร เมื่อได้ครบทั้ง2สิ่งแล้วจะต้องมาดูว่าอันไหนมากกว่าหรือน้อยกว่ากัน

CASE ที่ยอดปิดบัญชีรถยนต์เหลือต่ำกว่าวงเงินสินเชื่อรถยนต์ใหม่ที่จะได้รับ ก็แสดงว่าดำเนินการติดต่อรีไฟแนนซ์รถยนต์ของคุณได้ เช่น ยอดปิด300000 ต่ำกว่า ยอดสินเชื่อรถยนต์ใหม่ที่ได้รับห้าแสนบาท เท่ากับ จ่ายออกไป300000 ได้รับคืนมาที่500000 ส่งผลให้เกิดส่วนต่างเงินสดที่สองแสนบาท

CASE ในกรณีที่ยอดปิดบัญชีรถยนต์เหลือสูงกว่าวงเงินสินเชื่อรถยนต์ใหม่ที่จะได้รับ ก็แสดงว่าโอกาสในการทำธุรกรรมรีไฟแนนซ์รถของคุณเป็นไปไม่ได้ สมมุติ ยอดปิด400000 วงเงินสินเชื่อรถยนต์ใหม่ที่ได้รับสามแสนห้าหมื่นบาท เท่ากับ จ่ายออกไป400000 ได้รับคืนมาที่สามแสนห้าหมื่นบาท ทำให้เงินสดติดลบอยู่ห้าหมื่นบาท ไม่ตอบโจทย์วัตถุประสงค์ในการทำเรื่องสินเชื่อรถยนต์เพื่อรีไฟแนนซ์รถที่มีความต้องการเงินสดจึงเป็นไปไม่ได้เพราะว่าในกรณีนี้ต้องควักเงินสดจ่ายเพิ่ม

สิ่งที่ต้องรู้ สินเชื่อรถยนต์โดยการรีไฟแนนซ์ทางสถาบันการเงินแห่งใหม่ที่ติดต่อทำเรื่องสินเชื่อรถยนต์จะไม่มีโครงการรับโอนหนี้สินเชื่อรถยนต์เหมือนกับการสินเชื่อบ้านนะจ๊ะ